คำถามที่พบบ่อย



การตรวจสภาพรถ (ตรอ.) เพื่อต่อภาษี ต่อทะเบียน

       ท่านต้องนำรถของท่านไปตรวจสภาพที่ สถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ. ที่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง จากกรมการขนส่ง ทุกแห่งใกล้บ้านท่าน กดดูแผนที่

       ราคา
       ค่าตรวจสภาพรถยนต์ 200 บาท สำหรับน้ำหนักไม่เกิน 2,000 กก.
       และ 300 บาท สำหรับรถยนต์ที่หนักเกิน 2,000 กก.
       ค่าตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ 60 บาท (รถมอเตอร์ไซต์)

       ไม่ตรวจสภาพรถไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันที่เข้าข่ายจำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีทุกครั้ง

       รถที่ต้องตรวจสภาพ
       รถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป นับจากวันจดทะเบียน
       รถจักรยานยนต์อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป นับจากวันจดทะเบียน

       เมื่อรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป นับจากวันจดทะเบียน
       รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป นับจากวันจดทะเบียน

       ง่ายๆ คือ รถยนต์ที่จะต่อภาษีปีที่ 8 ต้องตรวจสภาพด้วย
       และรถมอเตอร์ไซค์ที่จะต่อภาษีปีที่ 6 ต้องตรวจสภาพด้วย
       โดยสามารถดูได้จากใบคู่มือจดทะเบียน ในหน้าที่ 16 (รถยนต์เล่มสีน้ำเงิน รถจักรยานยนต์เล่มสีเขียว)

       ผู้ที่จะนำรถไปตรวจสภาพที่ ตรอ. ต้องนำสมุดคู่มือจดทะเบียนรถไปด้วย (รถยนต์เล่มสีน้ำเงิน รถจักรยานยนต์เล่มสีเขียว)
       หากไม่มี สามารถใช้ใบถ่าย หรือสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถแทนได้

       ไม่ได้ เพราะทาง ตรอ. ต้องนำข้อมูลรถมาลงในระบบคอมพิวเตอร์ส่งให้กรมการขนส่งฯ พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของรถ และข้อมูลรถด้วย

       ได้ ท่านสามารถนำรถไปตรวจสภาพที่ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ได้ทั่วประเทศ

       ค่าบริการตรวจสภาพรถ
       รถยนต์น้ำหนักไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม 200 บาท
       รถยนต์น้ำหนักเกิน 2,000 กิโลกรัม 300 บาท
       รถจักรยานยนต์ (รถมอเตอร์ไซค์) 60 บาท

       การตรวจสภาพรถ ใช้เวลาไม่นานจ้า ประมาณ 15 -30 นาที ต่อคัน
       และลูกค้าสามารถรอรับใบตรวจสภาพได้เลย

       ต้องนำรถไปแก้ไขในข้อที่ไม่ผ่าน จากนั้นก็นำรถมาตรวจสภาพอีกครั้ง

       ใบตรวจสภาพรถมีอายุ 90 วัน นับจากวันที่ทำการตรวจสภาพรถ

       ต้องตรวจจ้า ตามกฎหมายเมื่อรถเราถึงกำหนดตรวจสภาพแล้ว เราต้องตรวจสภาพรถทุกปีค่า

       รถที่ติดตั้งแก๊ส CNG (NGV) นั้นในการต่อภาษีประจำปี ปีที่ 4 นับจำวันที่ติดตั้งแก๊ส จะต้องนำรถไปตรวจสภาพ ที่สถานตรวจสภาพรถใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (NGV)
       ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก และหลังจากนั้นต้องนำรถไปตรวจสภาพแก๊สปีละ 1 ครั้ง ทุกปี

       รถที่ติดตั้งแก๊ส LPG มานั้น ในการต่อภาษีประจำปี ปีที่ 6 นับจากวันที่ติดตั้ง จะต้องนำรถไปตรวจสภาพ ที่สถานตรวจสภาพรถใช้แก๊ส LPG ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก

       จำเป็น เพื่อความปลอยภัยของผู้ใช้รถ และเมื่อรถที่จดใช้งานแก๊สชนิดต่างๆ ครบตามปีที่กฎหมายกำหนด ต้องนำใบตรวจสภาพแก๊ส
       เพื่อนำใบตรวจสภาพแก๊ส ไปยื่นคู่กับใบตรวจสภาพ ตรอ. และ พรบ. เพื่อต่อภาษีประจำปี



การต่อภาษีรถ หรือ ต่อทะเบียนรถ

       สามารถต่อภาษีที่อุบลได้จ้า เราสามารถต่อภาษี ต่อทะเบียนรถที่จังหวัดไหนก็ได้ ทั่วประเทศเลยค่า

       ได้จ้า เราสามารถต่อทะเบียนรถก่อนล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 นับจากวันที่ภาษีจะขาดจ้า
       เช่น ภาษีรถจะขาดในวันที่ 1 ม.ค. 61 เราสามารถต่อภาษีรถได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2560 เป็นต้นไป คือต่อได้ก่อนขาด 90 วันนั้นเอง

       ถ้าภาษีขาดมายังไม่เกิน 3 ปี สามารถต่อภาษีได้เลยค่า โดยจะเสียค่าปรับร้อยละ 1 บาท ของค่าภาษีประจำปีนั้นๆ
       เช่น ภาษีขาดมาแล้ว 7 เดือน โดยปกติเสียค่าภาษีปีละ 900 บาท ก็จะเสียค่าปรับเท่ากับ (900*0.01)*7 = 63 บาท เป็นต้น

       และถ้าขาดเกิน 3 ปี ต้องทำเรื่องจดทะเบียนใหม่เท่านั้นคะ โดยต้องนำรถไปตรวจสภาพที่ขนส่งด้วย

       ถ้าทะเบียนรถขาดมาแล้วไม่เกิน 3 ปี สามารถต่อทะเบียนได้เลย โดยต้องชำรำค่าปรับย้อนหลังในร้อยละหนึ่งบาทต่อเดือน
       แต่ถ้าทะเบียนรถขาดเกิน 3 ปี ต้องแจ้งจดทะเบียนรถใหม่เท่านั้น ไม่สามารถต่อจากของเก่าได้



พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

       “พ.ร.บ.” คือ ประกันภัยรถภาคบังคับ ซึ่งกฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำ พ.ร.บ.คุ้มครอง สรุปง่ายๆ พ.ร.บ. คือประกัน
       ภัยที่จะคุ้มครองผู้บาดเจ็บ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถ ทางพ.ร.บ. จะออกค่ารักษาพยาบาล หรือ จ่ายสินไหมทดแทนให้

       จำเป็นต้องทำ เพราะกฎหมายบังคับ ให้รถทุกคันต้องทำพรบ.
       หมายเหตุ: กฎหมายบังคับให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับการขนส่งทางบกจะต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ฝ่าฝืนจะมีความผิด
       โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถเก็บรักษาหลักฐานแสดงการมีประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถไว้ให้พร้อม
       ที่จะแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทุกเวลาที่ใช้รถ เว้นแต่กรณีรถคันดังกล่าวได้จดทะเบียนหรือชำระภาษีประจำปีแล้ว

       ที่มา:วิริยะประกันภัย

       เราสามารถซื้อ พรบ. เพิ่ม หรือ ลดวัน พรบ. ลงได้ เพื่อให้มันขาดพร้อมกับภาษีรถ ปีหน้าจะได้จำง่ายๆ ว่ามันขาดพร้อมกัน

       จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (จ่ายโดยไม่รอผลพิสูจน์ความรับผิด) เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากรถ และ รถคันที่เกิดอุบัติเหตุมีประกันภัย พ.ร.บ. บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยจ่ายเป็นค่าเสียหายเบื้องต้น ภายใน 7 วัน ดังนี้
       1. กรณีบาดเจ็บ จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/คน
       2. กรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร/สูญเสียอวัยวะ จ่าย 35,000 บาท/คน
       3. หากเกิดความเสียหายทั้ง 2 กรณีรวมกันแล้วไม่เกิน 65,000 บาท

       จ่ายค่าสินไหมทดแทน (จ่าย เมื่อพิสูจน์ความรับผิดแล้ว) รวมค่าเสียหายเบื้องต้น ดังนี้        1. กรณีบาดเจ็บ จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงสุดไม่เกิน 80,000 บาท/คน
       2. กรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร จ่าย 300,000 บาท/คน
       3. กรณีสูญเสียอวัยวะ (เป็นไปตามเงื่อนไขตามอัตราที่กำหนด) จ่าย 200,000 – 300,000 บาท/คน
       4. กรณีนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) จ่ายค่าชดเชย 200 บาท / วัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน

       หมายเหตุ : (ผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายที่ต้องรับผิด จะได้รับความคุ้มครอง เฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น)

       ขี่รถจักรยานยนต์ล้มเอง สามารถเบิก พ.ร.บ. ค่ารักษาพยาบาล ได้ โดยสามารถเบิกได้ที่ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด หรือ บูทของ บริษัท กลางฯ ที่โรงพยาบาลที่ท่านรักษาตัว

       เอกสารที่ใช้ในการเบิก พรบ. (ในกรณีล้มเอง ไม่มีคู่กรณี)
       1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการออกให้ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่มีชื่อในหลักฐานนั้นเป็นผู้ประสบภัย
       2. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล

       สามารถเบิก พ.ร.บ. ได้ โดยจะได้ เฉพาะค่าเสียเบื้องต้นเท่านั้น

       สามารถนำ พ.ร.บ. เก่าไปถ่ายเองสารเพื่อนำไปต่อภาษีได้ แต่ พรบ. นั้นต้องมีอายุคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน ถ้าอายุคงเหลือไม่ถึง ท่านต้องทำพรบ. ใหม่


จำนวนการดูหน้าเว็บรวม